• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่เน้นการเผาผลาญพลังงาน เช่น คาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง การออกกำลังกายช่วยเผาผลาญพลังงานและไขมันในร่างกาย ส่งผลให้หน้าท้องลดลงและรูปร่างกระชับขึ้น

• ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรับประทานอาหาร 

เช่น รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง โปรตีนสูง ไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันทรานส์สูง และดื่มน้ำให้เพียงพอ อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว เมล็ดพืช เป็นต้น จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนและช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันทรานส์สูง อาหารแปรรูป เป็นต้น อาหารเหล่านี้จะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้รู้สึกหิวเร็วขึ้น

• ดื่มน้ำเพียงพอ

การดื่มน้ำเพียงพอช่วยในการส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญไขมันและ ลดน้ำหนัก แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน

• หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด 

อาหารรสเผ็ดสามารถทำให้คุณรู้สึกหิวมากขึ้นและบริเวณหน้าท้องขยายขึ้น ลดการบริโภคอาหารรสเผ็ดเพื่อลดพุง

• พักผ่อนให้เพียงพอ 

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้ รวมถึงช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารด้วย โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

• หลีกเลี่ยงความเครียด 

ความเครียดอาจกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น การจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม เช่น การผ่อนคลาย ออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ เป็นต้น จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและลดความเครียดได้

• ลดการบริโภคแอลกอฮอล์ 

แอลกอฮอล์สามารถเพิ่มพิษสารไขมันในร่างกายและส่งผลให้เกิดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ ควรลดการดื่มแอลกอฮอล์หรือดื่มอย่างมีสติ

• หมั่นเฝ้าพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกาย 

การบันทึกพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายช่วยให้คุณรับรู้และปรับปรุงพฤติกรรมเพื่อลดพุงและไขมันหน้าท้อง